(เครดิตรูปภาพ: pexels)
ซื้อรถทั้งที เลือกสีอะไรดี?
กว่าจะตัดสินใจเลือกแบรนด์ และรุ่นรถก่อนซื้อได้แล้ว เรื่องสีก็ตัดสินใจยากไม่แพ้กัน เพราะบางครั้งก็ลังเลว่าจะเลือกระหว่างสีที่ชอบหรือสีที่ดูแลได้ง่ายดีกว่า เลือกยากจัง…
วันนี้ Motorist จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้วยข้อดี/ข้อเสียของรถแต่ละสี
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
สีขาว
สีเบสิกที่เราเห็นกันจนชินตา หลายคนอาจมองว่ามันสกปรกง่าย ต้องหมั่นความสะอาดบ่อย ๆ ซึ่งก็ถูก เป็นข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้เลย แต่ข้อดีของรถสีขาวก็คือปลอดภัยเวลาขับขี่ในช่วงเวลากลางคืน แถมเวลาขายต่อก็ได้ราคาที่ดีอีกด้วย
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
สีดำ
รถสีดำสุดคลาสสิก เป็นสียอดฮิตไม่ต่างกับสีขาวเลย ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าน่าจะเป็นสีที่ดูแลได้ง่ายสุด เพราะรถเป็นสีดำ ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อยก็ได้ แต่ขอบอกเลยว่าคิดผิด! เพราะชาวรถสีดำต้องระวังเรื่องฝุ่นและคราบสกปรกต่าง ๆ เพราะถ้ามีขึ้นมาก็เห็นได้ง่ายไม่ต่างจากสีขาว แถมถ้าจอดกลางแจ้งอาจจะทำให้ห้องโดยสารภายในร้อนจัดได้ เพราะเป็นสีดูดความร้อน
แต่ข้อดีของรถสีดำก็คือ สามารถมองเห็นได้ง่ายเวลาขับขี่ในช่วงกลางวันหรือสภาพอากาศที่มีหมอกจัด
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
สีแดง
รถสีแดงแรงฤทธิ์แบบนี้ มีพิษสงหรือเปล่านะ? ต้องบอกเลยว่ารถสีแดงโดดเด่นและเห็นชัดมากเวลาอยู่บนท้องถนน ทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย วิธีการดูแลก็ง่าย แค่หมั่นขัดเคลือบเงาบ่อย ๆ ก็เหมือนได้รถใหม่แล้ว
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
สีน้ำเงิน
รถสีน้ำเงิน ช่วยเพิ่มดีกรีความเท่ไปอีกระดับ แต่น่าจะดูแลยากแน่ ๆ เลย… เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีความคิดแบบนี้ แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ขัดเคลือบเงาบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการจอดตากแดดนาน ๆ และระวังคราบขาวก็โอเคแล้ว หรืออาจจะเคลือบแก้วและติดฟิล์มกันรอยเพิ่มก็ช่วยชะลอความซีดของสีรถได้
(เครดิตรูปภาพ: pixabay)
สีเขียว
สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ เป็นสีที่สามารถมองเห็นได้ง่ายทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนเลย แถมดูแลรักษาง่าย คล้ายกับรถสีอื่น ๆ เลยก็คือ หมั่นทำความสะอาดรถ ไม่จอดกลางแจ้งบ่อย/นาน เพื่อป้องกันรถสีซีดเร็ว และเคลือบเงาให้เหมือนใหม่อยู่ตลอด
(เครดิตรูปภาพ: pexels)
สีบรอนซ์เงิน
รถสีบรอนซ์เงิน น่าจะเป็นสีรถที่ดูแลง่ายที่สุดถ้าเทียบกับรถสีอื่น ๆ เพราะต่อให้รถมีฝุ่นเกาะก็มองไม่ค่อยเห็น และสีรถก็ไม่หมองง่าย แค่ล้างรถเป็นประจำ และระวังไม่ให้เลอะคราบโคลนก็ดูดีแล้ว
(เครดิตรูปภาพ: pixabay)
สีชมพู
มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร แถมขับขี่ปลอดภัยในเวลากลางคืน หรือต้องขับไปในทางเปลี่ยวเพราะสีโดดเด่น แถมคนใช้น้อยด้วย แต่ต้องดูแลรถอย่างดีนิดนึง เพราะสีค่อนข้างซีดเร็ว ต้องนำไปทำสีบ่อย ๆ ทำความสะอาดบ่อย ๆ และระวังเรื่องรอยขีดข่วนและคราบสกปรกนิดนึง
(เครดิตรูปภาพ: pixabay)
สีเหลือง
สายลุยต้องเลือกสีนี้เลย เพราะทนทานต่อทุกสภาพอากาศและสถานการณ์ สะท้อนแสงได้ดี ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน แค่หมั่นดูแลรักษาความสะอาดก็เพียงพอ เพราะสีนี้อ่อนไหวต่อคราบสกปรกทั้งสีเข้มและอ่อน เพราะพอเลอะแล้วจะเห็นชัดนั่นเอง
หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสีรถได้ง่ายขึ้นนะคะ แต่ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถ เราช่วยหาราคาที่ดีที่สุดให้คุณได้ ภายใน 24 ชั่วโมง กดที่ปุ่มด้านล่างได้เลย!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: เทคนิคขายรถมือสองให้ได้ราคาดีที่สุด
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…