ดูเหมือนว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานที่ยั่งยืน จะมีการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้ BMW จะเริ่มเข้าสู่วงการนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยการผลิตรถยนต์เชื้อเพลิงทางเลือก BMW iX5 Hydrogen
การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ มีที่มาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์บาวาเรียได้เปิดตัวรถแนวคิด BMW i Hydrogen NEXT ออกมา แต่คุณจะยังไม่สามารถครอบครองได้ในเร็ว ๆ นี้ เพราะจะมีเพียง 100 คันในโลกเท่านั้นในช่วงแรกของการผลิต จากนั้นถึงจะส่งออกไปถึงผู้ขับขี่รถทั่วโลกในลำดับต่อไป
iX5 Hydrogen จับคู่แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงกับส่วนประกอบเซลล์เชื้อเพลิงที่ Toyota จัดหาให้ เพื่อสร้างระบบขับเคลื่อนที่ Juergen Guldner หัวหน้าโครงการเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและยานยนต์ของ BMW กล่าวไว้ว่า “การสร้างเส้นทางใหม่ เพื่อความเพลิดเพลินในการขับขี่อย่างยั่งยืน”
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ BMW จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่แตกต่างกัน สำหรับ iX5 Hydrogen จะมีล้อแอโรไดนามิก ขอบสีตัดกัน เคลือบด้วย BMW i Blue ทั้งหมด ทำให้ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมีป้าย ‘เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน’ บริเวณประตูและแผ่นปิดแผงหน้าปัด เพื่อบ่งบอกถึงแหล่งที่มาของเชื้อเพลิงรถรุ่นนี้
เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดนเจนเพียงอย่างเดียว สามารถให้พลังงานไฟฟ้าได้เพียงพอ เพื่อให้มีกำลัง 170 แรงม้าอย่างต่อเนื่อง โดยปล่อยเพียงไอน้ำออกมาเท่านั้น เมื่อจับคู่กับแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง และมอเตอร์ eDrive รุ่นที่ 5 ทำให้มีกำลังสูงถึง 374 แรงม้าเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับรถ EV อื่น ๆ มอเตอร์นี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เมื่อคุณยกเท้าออกจากคันเร่ง
จุดเด่นหลัก ๆ ของการใช้รถพลังงานไฮโดนเจนก็คือ สามารถเติมเชื้อเพลิงได้จ่าย ต่างจาก BEV ที่ต้องชาร์จหลายชั่วโมง เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอต่อการใช้งาน
แต่สำหรับรถไฮโดรเจนจะมีถังขนาด 700 บาร์สองถังเพื่อกักเก็บพลังงาน ซึ่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และสามารถกักเก็บไฮโดรเจนได้ประมาณ 6 กิโลกรัม ใช้เวลาเพียง 4 นาทีในการเติมให้เต็มถัง ทำให้การเดินทางไกลไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: mReview: รีวิวรถ Mitsubishi Space Star 2021
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…