(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
กรุงเทพฯ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องรถติดแล้ว เรื่องอุบัติเหตุก็ไม่เบาเหมือนกัน เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้มีจำนวนรถวิ่งบนท้องถนนเยอะมาก ๆ หากขับขี่ด้วยความประมาทย่อมเกิดอุบัติเหตุได้ไม่ยาก
วันนี้ Motorist ขอแชร์ 14 จุดที่สำนักงานการจราจรและขนส่งแห่งชาติออกมายืนยันเลยว่าเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ใช้รถทุกท่านระมัดระวังมากขึ้นเมื่อต้องใช้เส้นทางเหล่านี้
1. แยกอโศก-เพชรบุรี
ใครที่ต้องเดินทางไปแถวนี้บ่อย ๆ จะรู้เลยว่าเส้นนี้เป็นอะไรที่การจราจรหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นจุดที่มีทั้งตึกสำนักงาน แหล่งท่องเที่ยว และศูนย์รวมความบันเทิงมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงรถเยอะ
จุดที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
- บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ติดกับ MRT สถานีเพชรบุรี
- รถที่มุ่งหน้าจากถนนกำแพงเพชร 7 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนอโศกมนตรี และรถจากถนนอโศก-ดินแดงทางตรง มักเกิดเหตุเฉี่ยวชนบ่อย
- รถจากถนนอโศก-ดินแดง เลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชร 7 เพื่อเข้าสู่ถนนนิคมมักกะสัน มักมีรถขับย้อนศรและตัดหน้าบ่อย ต้องขับขี่อย่างมีสติมาก ๆ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ
2. ทางพิเศษศรีรัช ช่วงทางด่วนขั้นที่ 2 บริเวณต่างระดับพญาไท
ถึงจะเป็นทางพิเศษแต่ก็รถเยอะไม่แพ้กัน เพราะเป็นทางพิเศษสายยาวเชื่อมกับมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพ-ชลบุรี) และรถส่วนใหญ่มักจะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ขับปาดหน้า และเฉี่ยวชนอยู่บ่อยครั้ง โดยจุดที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษก็คือ เลนเบี่ยงต่างระดับพญาไท (เลี้ยวซ้ายออกยมราช-เลี้ยวขวาออกหมอชิต) เพราะมักจะเกิดการเข้าเลนผิดบ่อยหรือเปลี่ยนเลนกะทันหันนั่นเอง
(เครดิตรูปภาพ: ddproperty)
3. ปากซอยสุขุมวิท 24
ซอยนี้จะไม่ให้พลุกพล่านได้ยังไง ก็เพราะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ถึง 2 ห้าง และยังมีตึกสำนักงานมากมาย ทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาอยู่ตลอด โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องคอยรับส่งในเวลาเร่งด่วน และขับซิกแซกไปมา ทำให้อาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดได้
4. ถนนลาดพร้าว
เป็นอีกถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดสุด ๆ และติดทั้งเส้นเลย โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณถนนโพธิ์แก้วติดกับวัดบึงทองหลางและจุดเชื่อมระหว่างซอยลาดพร้าว 101 เพราะรถที่วิ่งสวนมาจากถนนโพธิ์แก้ว มุ่งหน้าเข้าวัดบึงทองหลาง หากไม่ได้สังเกตรถทางตรงจากซอยลาดพร้าว 101 ก็อาจจะเกิดการแย่งช่องจราจรกันหรือเฉี่ยวชนในระยะประชิดได้
5. ถนนพระราม 2
หากคุณขับทางตรงมาบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลพระราม 2 ต้องระวังรถที่ออกจากห้างและเบี่ยงเลนเพื่อเข้าเส้นพระราม 2 อย่างกะทันหัน นอกจากนี้ต้องระวังช่วงสะพานกลับรถบริเวณหน้าห้างด้วย เพราะเมื่อลงจากสะพานมาจะต้องเข้าเลนตรงอย่างกะทันหัน อาจทำให้เกิดการชนได้ง่าย
(เครดิตรูปภาพ: prop2morrow)
6. ถนนเคหะร่มเกล้า
ด้วยความที่เป็นถนนย่านชุมชน ก็จะมีตรอก ซอก ซอยค่อนข้างเยอะ ทำให้ผู้ขับขี่บางส่วนสับสนกับเส้นทางและช่องจราจรได้ง่าย และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเช่นกันหากขับขี่ไม่ระมัดระวัง
7. ถนนอ่อนนุช
ต้องระมัดระวังรถที่ออกจากบิ๊กซีสู่ถนนอ่อนนุชให้ดี เพราะรถส่วนใหญ่มักจะเบี่ยงเข้าเลนขวาเข้าถนนสุขุมวิททันที โดยไม่ให้สัญญาณไฟ
8. ถนนสุวินทวงศ์
ถนนสุวินทวงศ์ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 52-55 มีเนินสูงและทางโค้งจำนวนมาก ยิ่งถ้าขับช่วงหน้าฝนยิ่งเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
9. ถนนพระราม 9
เป็นจุดที่การจราจรชุกชมเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นที่เลี้ยวซ้ายจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพราะจะมีรถบางส่วนเบี่ยงเข้าเลนขวาอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดเหตุตัดหน้ารถทางตรงและเฉี่ยวชนบ่อย ๆ
(เครดิตรูปภาพ: prachachat)
10. ถนนนวมินทร์
ถนนเส้นนี้ก็ติดไม่ใช่เล่น เพราะสามารถเชื่อมต่อกับถนนอื่น ๆ อีกหลายเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณถนนนวมินทร์มุ่งหน้าแยกบางกะปิ เพราะจะมีรถที่ออกจากซอยอยู่ตลอด อาจทำให้เกิดเหตุรถตัดหน้าและเฉี่ยวชนอย่างกระชั้นชิดได้
11. โค้งถนนรัชดาภิเษกหน้าศาลอาญา
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับฉายาว่า “โค้ง 100 ศพ” เพราะเป็นทางโค้งยาว ทำให้รถส่วนใหญ่มักจะขับมาด้วยความเร็วสูง และเกิดอุบัติเหตุแหกโค้งมานับไม่ถ้วน เพราะเมื่อขับมาถึงจุดนี้มักจะเกิดความสับสนว่าเป็นทางโค้งหรือทางตรงกันแน่ ทำให้ควบคุมรถไม่อยู่
12. แยกตัว Y ลงสะพานข้ามแยกรัชวิภา
เป็นทางแยกต่างระดับข้ามแยกที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษกทั้งสองฝั่ง ซึ่งมีการจราจรหนาแน่นตลอดวัน โดยจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ ก็คือ บริเวณทางออกสะพานฝั่งขาเข้าแยกประชานุกูล เพื่อออกถนนวิภาวดี และสามารถไปสู่ถนนกำแพงเพชรได้ เพราะเป็นทางออกเดียวของถนน และเป็นทางโค้งที่แคบชัน ทำให้ยากต่อการควบคุมความเร็ว
13. อุโมงค์ดินแดง
“อุโมงค์ 100 ศพ” อันเลื่องชื่อ เพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากอุโมงค์มีลักษณะเป็นทางโค้งต่อเนื่องกัน และเป็นโค้งหลังหัก (ทางโค้งสองโค้งที่เชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น) และแสงสว่างไม่เพียงพอ หากไม่ชินเส้นทางอาจเกิดการหลุดโค้งได้ง่าย ถ้ายิ่งขับขี่ด้วยความประมาท ขับด้วยความเร็วสูง โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุก็จะสูงตามไปด้วย เพราะทางค่อนข้างอันตราย
14. อุโมงค์แยกบางพลัด
เนื่องจากไฟในอุโมงค์มีแสงสว่างระดับเดียว ทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอและระดับแสงค่อนข้างต่างกันมากจากสภาพแสงภายนอก เมื่อขับเข้าไปในอุโมงค์ทำให้สายตาปรับแสงไม่ทัน จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น การกั้นช่องจราจรไม่ชัดเจน ทำให้สับสนว่าต้องใช้ช่องทางใด, รถมอเตอร์ไซค์ลักลอบใช้อุโมงค์, การจราจรภายในติดขัด หากรถที่ตามหลังมาขับมาด้วยความเร็ว ก็อาจจะชนกันเข้าอย่างจังได้
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: อัปเดตอาคารจอดแล้วจร 2566
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…