(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
ยางรั่ว ยางแตก ควรเลือกปะยางแบบไหนดี?
ยางรถก็มีวันเสื่อมสภาพ ทั้งเสื่อมสภาพเองไปตามกาลเวลา หรือบางครั้งอาจเจอสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ยางรั่ว ยางแตก ยางแบนแบบไม่ทันตั้งตัว ต้องอาศัยการปะยางในการกู้สภาพให้กลับมาใช้งานต่อได้ แล้วควรเลือกปะยางแบบไหนดี?
การปะยาง เป็นการอุดรอยรั่วเบื้องต้นเพื่อประคับประคองให้ยางสามารถใช้งานต่อไปได้ ซึ่งการปะยางแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรเลือกการปะยางให้เหมาะสม
การปะยาง มีทั้งหมด 3 แบบ
1. ปะยางตัวหนอน
ปะยางตัวหนอนหรือแทงหนอน เป็นการปะยางแบบชั่วคราว อยู่ได้ไม่นานนัก เพียงแค่ช่วยให้รถยังสามารถขับต่อไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งการปะยางรูปแบบนี้ มักจะใช้ในกรณีขับเหยียบตะปูหรือของมีคมต่าง ๆ และส่วนใหญ่มักจะใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ เพราะหาซื้ออุปกรณ์ได้ง่าย ใช้เวลาในการปะยางไม่นาน และไม่ต้องถอดล้อออกมา
2. ปะยางสตรีมร้อน
การปะยางรูปแบบนี้ มักจะใช้ในกรณีที่โดนตะปู น็อต เหล็ก หรือเศษแก้วบาด แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก วิธีการคือจะต้องถอดล้อออกมาเพื่อทำการอุดรอยรั่วด้านในของตัวยาง และต้องใช้ความร้อนในการละลายยางเพื่อปะยางให้แน่น ซึ่งวิธีนี้จะให้ความทนทานกว่าการปะยางตัวหนอน
แต่ข้อเสียของการปะยางสตรีมร้อนก็คือ ความร้อนอาจส่งผลให้เนื้อยางเกิดความเสียหาย เช่น ยางบริเวณที่ปะเกิดการแข็งตัว, ยางบวม, ยางผิดรูป หรือทำให้เกิดอาการล้อสั่นแม้จะถ่วงล้อแล้วก็ตาม
3. ปะยางสตรีมเย็น
วิธีการคล้ายกับแบบสตรีมร้อน แต่แตกต่างกันที่ไม่มีการใช้ความร้อน และเริ่มต้นด้วยการขัดผิวยางรอบรู้รั่วให้สากก่อน ถึงจะทากาวปะยางแบบพิเศษและแปะแผ่นยางเล็ก ๆ เพื่ออุดรอยรั่ว ซึ่งวิธีนี้ก็ให้ความทนทานพอ ๆ กับการปะยางสตรีมร้อน แต่ไม่ส่งผลเสียหายต่อเนื้อยาง
ยางรถก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเกิดยางมีปัญหาเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุใหญ่ได้ ดังนั้นหากพบเห็นความผิดปกติของยางรถควรรีบหาสาเหตุและแก้ไขโดยด่วน
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: วิธีดูแลรถกระบะให้เหมือนใหม่ตลอดเวลา
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…