(เครดิตรูปภาพ: freepik)
ป้ายจราจรทุกป้ายล้วนมีความหมาย ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าคืออะไร และต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
ป้ายจราจร คืออะไร?
ป้ายจราจรหรือเครื่องหมายจราจร (Traffic Sign) เป็นสัญลักษณ์เพื่อใช้ในการควบคุมการจราจรให้เป็นระเบียบและปลอดภัยต่อผู้ใช้ท้องถนน เช่น ป้ายบังคับทิศทาง การจอด การเตือน ข้อห้ามต่าง ๆ เป็นต้น
ดังนั้นผู้ใช้ท้องถนนทุกคนควรจะต้องสังเกตป้ายหรือสัญลักษณ์เหล่านี้ตลอด และต้องปฏิบัติตตามอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ มาดูกันว่าแต่ละป้ายจราจรมีความหมายว่าอะไรบ้าง
สัญญาณบังคับ
ป้ายสัญญาณบังคับ ได้รับการออกแบบมาเพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความถูกต้องและปลอดภัยในการขับขี่ โดยลักษณะของป้ายเหล่านี้มักจะเป็นวงกลม และมีสัญลักษณ์หรือตัวอักษรอยู่ตรงกลางป้าย
ตัวอย่างของป้ายสัญญาณบังคับ ได้แก่:
- เลี้ยวซ้าย (มีลูกศรสีขาวชี้ไปทางซ้ายบนพื้นหลังสีน้ำเงิน)
- เลี้ยวขวา (มีลูกศรสีขาวชี้ไปทางขวาบนพื้นหลังสีน้ำเงิน)
- ตรงไป (มีลูกศสีขาวชี้ขึ้นไปบนพื้นหลังสีน้ำเงิน)
- ชิดซ้าย (มีลูกศสีขาวชี้ไปทางช้ายบนพื้นหลังสีน้ำเงินและมีแถบสีขาวทางด้านขวา)
- ชิดขวา (มีลูกศรสีขาวชี้ไปทางขวาบนพื้นหลังสีน้ำเงินและมีแถบสีขาวทางด้านซ้าย)
- อนุญาตให้กลับรถได้ (มีลูกศรสีขาวชี้ขึ้นไปบนพื้นหลังสีแดงและมีลูกศรสีขาวชี้ลงด้านล่าง)
- หยุด (เครื่องหมายแปดเหลี่ยมพื้นหลังสีแดงขอบสีขาวมีคำว่า 'S TOP' เขียนทั้งภาษาไทและภาษาอังกฤษ)
- จำกัดความเร็ว (ป้ายวงกลมพื้นหลังสีขาวและมีขอบสีแดงมีตัวเลขอยู่ภายในวงกลม หมายถึง จำกัดความเร็วสูงสุดเป็นกิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ข้อสำคัญ: ผู้ขับขี่ต้องใส่ใจกับป้ายสัญญาณเหล่านี้ เนื่องจากเป็นสัญญาณ "บังคับ" หากไม่ปฏิบัติตามป้ายอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเสียค่าปรับได้
ข้อแนะนำ: ป้ายสัญญาณบังคับในประเทศไทยอาจเขียนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้ขับขี่ทำความคุ้นเคยกับทั้ง 2 ภาษา เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจกับป้ายสัญญาณได้อย่างถูกต้อง
สัญญาณเตือน
ป้ายสัญญาณเตือนถูกออกแบบมาเพื่อแจ้งผู้ขับขี่ถึงการเปลี่ยนแปลงของถนนและการจราจรบนถนนข้างหน้า โดยป้ายสัญญาณเหล่านี้มักมีขอบสีแดงและพื้นหลังสีเหลือง
ตัวอย่างของป้ายสัญญาณเตือน ได้แก่:
- ถนนลื่นข้างหน้า (มีภาพรถลื่นไถล)
- เนินเขาสูงชันข้างหน้า (มีรถกำลังขึ้นเขา)
- ทางม้าลาย (ภาพคนเดิน)
- ถนนข้างหน้าแคบลง (มีลูกศรสองลูกมาบรรจบกัน)
- งานถนนข้างหน้า (ภาพคนกำลังขุด)
- Animal Crossing (แสดงด้วยภาพเงาของสัตว์)
- สัญญาณไฟจราจรข้างหน้า (แสดงโดยสัญญาณไฟจราจร)
- ทางข้ามรถไฟ (ภาพเป็นรางรถไฟ)
- เด็ก ๆ กำลังข้าม (ภาพเด็กสองคนจับมือกัน)
- หินที่ตกลงมาข้างหน้า (ภาพเป็นหินที่ตกลงมาจากหน้าผา)
ข้อสำคัญ: ผู้ขับขี่ต้องใส่ใจกับป้ายสัญญาณหล่านี้และขับขี่อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่นบนท้องถนน
ข้อแนะนำ: ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้ป้ายสัญญาณเตือนต่าง ๆ ไว้ เพื่อเข้าใจความหมายของป้ายสัญญาณก่อนลองขับขี่บนถนนจริง เพื่อความปลอดภัยและการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้อื่นบนท้องถนน
ป้ายห้าม
ป้ายห้ามถูกออกแบบมาเพื่อห้ามกระทำบางอย่างบนถนนตรงนั้น โดยป้ายเหล่านี้จะมีลักษณะเป็นวงกลมมีขอบสีแดง และมีสัญลักษณ์หรือตัวอักษรอยู่ตรงกลางป้าย
ตัวอย่างของป้ายห้าม ได้แก่:
- ห้ามกลับรถ (แสดงด้วยลูกศรกลับรถที่มีเครื่องหมายทับสีแดงทะลุ)
- ห้ามเลี้ยวซ้าย (มีลูกศรซ้ายมีเครื่องหมายทับสีแดง)
- ไม่มีการเลี้ยวขวา (มีลูกศรขวามีเครื่องหมายทับสีแดง)
- ห้ามแซง (มีรูปรถที่มีเครื่องหมายขีดสีแดงขวางอยู่)
- ไม่มีการบีบแตร (มีภาพเขาสัตว์ที่มีเครื่องหมายฟันสีแดงทะลุอยู่)
สัญญาณข้อมูล
ป้ายข้อมูล ถูกออกแบบเพื่อให้ข้อมูลผู้ขับขี่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ และเตรียมตัวสำหรับผู้ที่จะใช้สถานที่ที่กำลังจะถึง โดยป้ายเหล่านี้มักเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีสีฟ้าหรือเขียว
ตัวอย่างของป้ายสัญญาณข้อมูล ได้แก่:
- โรงพยาบาลข้างหน้า (มีสัญลักษณ์โรงพยาบาล)
- ปั๊มน้ำมันข้างหน้า (มีสัญลักษณ์ปั๊มแก๊ส)
- พื้นที่พักผ่อนข้างหน้า (มีสัญลักษณ์โต๊ะปิกนิก)
- สถานที่ท่องเที่ยวข้างหน้า (มีสัญลักษณ์รูปกล้อง)
- สนามบินข้างหน้า (มีสัญลักษณ์เครื่องบิน)
ป้ายบอกทิศทาง
ป้ายบอกทิศทางมีความสำคัญต่อผู้ขับขี่อย่างมาก เพราะป้ายทิศทางจะบอกทิศทางของถนนข้างหน้าที่ผู้ขับขี่ต้องทำตาม โดยป้ายเหล่านี้จะมีลูกศรชี้ไปในทิศทางของถนน
ตัวอย่างของป้ายบอกทิศทาง ได้แก่:
- ตรงไปข้างหน้า (มีลูกศรชี้ขึ้น)
- เลี้ยวซ้าย (มีลูกศรชี้ไปทางซ้าย)
- เลี้ยวขวา (มีลูกศรชี้ไปทางขวา)
- ชิดซ้าย (มีลูกศรชี้ไปทางซ้ายเป็นเส้นโค้ง)
- ชิดขวา (มีลูกศรชี้ไปทางขวาเป็นเส้นโค้ง)
เครื่องหมายถนน
เครื่องหมายถนน ถือเป็นเครื่องหมายที่สำคัญ โดยเครื่องหมายเหล่านี้ถูกทาสีบนพื้นถนน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแบ่งเลน ข้อจำกัดการเลี้ยว การเปลี่ยนเลน และการจอดรถ ผู้ขับขี่ควรให้ความสำคัญกับเครื่องหมายเหล่านี้ เพื่อไม่เกิดปัญหาบนท้องถนน ซึ่งอาจนำไปถึงการเกิดอุบัติเหตุหรือการโดนค่าปรับได้
- เส้นทึบสีขาว: การแยกระหว่างช่องจราจรที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วห้ามข้ามเส้นนี้
- เส้นประสีขาว: การแยกระหว่างช่องจราจรที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน อนุญาตให้ข้ามเส้นนี้ได้เมื่อทำได้อย่างปลอดภัย
- เส้นทึบสีเหลือง: การแยกระหว่างช่องทางจราจรที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยทั่วไปแล้วห้ามข้ามเส้นนี้
- เส้นประสีเหลือง: การแยกระหว่างช่องทางจราจรที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม อนุญาตให้ข้ามเส้นนี้ได้เมื่อทำได้อย่างปลอดภัย
- เส้นทึบสีขาวคู่: สิ่งกีดขวางระหว่างช่องจราจรที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ห้ามข้ามเส้นเหล่านี้โดยเด็ดขาด
- ทางม้าลาย: มีเครื่องหมายสลับแถบขาวดำ ผู้ขับขี่จะต้องหยุดรถให้คนเดินถนนบนทางม้าลาย
- เส้นหยุด: เส้นทึบสีขาวที่ระบุว่ายานพาหนะจะต้องจอดสนิทที่ทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจร
- เส้นอัตราผลตอบแทน: เส้นประสีขาวที่ระบุว่ายานพาหนะจะต้องยอมจำนนต่อการจราจรหรือคนเดินเท้าที่กำลังสวนมาเมื่อเข้าสู่ถนนหรือทางแยก
- เครื่องหมายเชฟรอน: เส้นสีขาวแนวทแยงที่วาดบนถนนเพื่อบ่งบอกถึงทางเลี้ยวหักศอกหรือทางโค้งข้างหน้า ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วและดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
- เครื่องหมายเลนจักรยาน: เป็นเลนที่กำหนดสำหรับจักรยาน โดยปกติจะทำเครื่องหมายด้วยเส้นทึบสีขาวและสัญลักษณ์จักรยาน ผู้ขับขี่รถยนต์ควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือจอดรถในช่องทางเหล่านี้
ข้อสำคัญ: นอกจากการทำความเข้าใจเครื่องหมายแล้ว ผู้มาเยือนต้องมีเอกสารที่จำเป็นเมื่อจะขับขี่ในต่างประเทศอย่างถูกกฏหมาย เอกสารนั้นคือ ใบอนุญาติขับขี่สากล (IDP) หรือ ใบขับขี่ระหว่างประเทศ
*ใบอนุญาติขับขี่สากล (IDP) เป็นเอกสารที่ใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อให้ผู้ถือสามารถขับขี่รถได้ในต่างประเทศ
ข้อแนะนำ: หากผู้มาเยือนรู้ว่าจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ แนะนำให้ขอเอกสาร IDP ก่อนเดินทางมาประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถขับขี่ได้อย่างถูกกฎหมาย
ก่อนเริ่มขับขี่บนถนน ผู้ขับขี่ควรเข้าใจหลักและกฎหมายการใช้ถนนของสถานที่นั้น การเรียนรู้ความหมายของป้ายสัญญาณต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้ขับขี่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยว
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: ทำไมทุกคนควรขับรถเป็น?
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…