เติมน้ำมันรถผิด รถจะสู่ขิตไหม?

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

เติมน้ำมันรถผิด ต้องรีบแก้ไขด่วนก่อนสายเกินแก้!

บางครั้งคนเราก็ลืมกันได้ว่าตัวเองต้องเติมน้ำมันรถแบบไหน หรือบางทีเราอาจจะพูดผิดเอง หรือในบางครั้งก็เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานปั๊มได้เหมือนกัน

ซึ่งถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้วก็อย่าชะล่าใจว่าไม่เป็นไรหรอก มันก็น้ำมันเหมือนกัน แค่รถวิ่งต่อได้ก็พอ แต่จริง ๆ แล้วการเติมน้ำมันผิดทำให้รถพังได้เลยนะ...

เติมน้ำมันรถผิด รถจะมีอาการอย่างไร?

กรณีเครื่องยนต์ดีเซลเติมน้ำมันเบนซิน

• มีควันดำออกมามากกว่าปกติ เครื่องยนต์สะดุด และสุดท้ายรถดับ
• ไม่สามารถสตาร์ทรถใหม่ได้
• หัวฉีดเกิดการฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ แล้วเกิดการลุกไหม้เร็วเกินไป ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและดับทันที
• อุปกรณ์ของระบบน้ำมันเชื้องเพลิงเสียหาย

กรณีเครื่องยนต์เบนซินเติมน้ำมันดีเซล

• หัวฉีดอุดตัน ไม่เป็นฝอยละออง ทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟแล้วเผาไหม้ได้ยาก ทำให้เครื่องยนต์ดับ
• ไส้กรองอุดตัน เขี้ยวหัวเทียนมีคราบเขม่าจับมาก
• เครื่องยนต์จะมีเสียงดังเวลาเร่งความเร็ว อัตราการเร่งเครื่องช้ากว่าปกติ และไม่สามารถทำความเร็วได้ดี
• มีไฟแจ้งเตือนเครื่องยนต์ขึ้นที่หน้าปัดรถ

(เครดิตรูปภาพ: freepik)

ถ้ารู้แล้วว่าเติมน้ำมันผิด ควรทำอย่างไร?

รู้ก่อนสตาร์ทรถ

• ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด
• แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อช่างเพื่อมาดูดน้ำมันที่เติมผิดออกจากถังให้หมด
• เติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปให้พอสตาร์ทรถติด เช่น 5-10 ลิตร
• สตาร์ทจนเครื่องยนต์ติด แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50 รอบต่อนาที และห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด
• สังเกตดูว่ามีไฟเตือนอะไรขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถไหม (ถ้าไม่มีไฟเตือนอะไรแปลว่าปกติ)
• เปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ เช่น เปิดแอร์ เปิดระบบไฟทั้งหมด หมุนพวงมาลัยซ้ายสุข-ขวาสุด แล้วให้สังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีอาการสั่นหรือจะดับไหม
• เข้าเกียร์ D หรือเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
• ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปสักพัก รอจนเครื่องยนต์ทำงานปกติแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

รู้หลังสตาร์ทรถ

• ดับเครื่องยนต์ทันที
• แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อช่างเพื่อมาดูดน้ำมันที่เติมผิดออกจากถังให้หมด
• ถอดและเปลี่ยนไส้กรองน้ำมัน
• ถอดหัวฉีด (ดีเซลหรือเบนซิน) และหัวเทียน (เบนซิน) เพื่อล้างทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่
• 5. ถอดปั๊มหัวฉีดเครื่องยนต์ดีเซลส่งไปร้านเทสต์ปั๊มหัวฉีดดีเซล (เครื่องยนต์เบนซินไม่มี)
• ถอดฝาสูบเครื่องยนต์ เช็กความเบี้ยว (ฝาโก่ง) ก้านวาล์วไอดี-ก้านวาล์วไอเสียคดหรือไม่ หากเกิดความเสียหายอาจจะต้องเปลี่ยน
• เมื่อทำตามทุกข้อด้านบนแล้ว ให้ประกอบกลับเหมือนเดิม แล้วเติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปประมาณ 5-10 ลิตร
• สตาร์ทจนเครื่องยนต์ติด แล้วปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบเดินเบา ประมาณ 850+/-50 รอบต่อนาที และห้ามเร่งรอบเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด
• สังเกตดูว่ามีไฟเตือนอะไรขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถไหม (ถ้าไม่มีไฟเตือนอะไรแปลว่าปกติ)
• เปิดสวิตช์อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มภาระให้เครื่องยนต์ เช่น เปิดแอร์ เปิดระบบไฟทั้งหมด หมุนพวงมาลัยซ้ายสุข-ขวาสุด แล้วให้สังเกตอาการของเครื่องยนต์ว่ามีอาการสั่นหรือจะดับไหม
• เข้าเกียร์ D หรือเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์ 1 สำหรับเกียร์ธรรมดา แล้วเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่
• ขับรถที่ความเร็วรอบต่ำไปสักพัก รอจนเครื่องยนต์ทำงานปกติแล้วค่อย ๆ เพิ่มความเร็วรอบของเครื่องยนต์

วิธีป้องกันไม่ให้เติมน้ำมันผิด

• เริ่มต้นที่ตัวเองก่อนด้วยการตั้งสติเวลาบอกพนักงานปั๊มว่าจะเติมน้ำมันประเภทไหน เพราะเดี๋ยวนี้ชื่อน้ำมันแต่ละประเภทมีความคล้ายคลึงกัน ดังนั้นเราต้องจำให้แม่นและบอกให้ถูก
• สังเกตเวลาพนักงานกำลังจะเติมน้ำมันให้เราว่าเค้าหยิบหัวจ่ายน้ำมันถูกต้องไหม
• ตรวจสอบใบเสร็จเพื่อเช็กรายละเอียดการเติมน้ำมัน หากเกิดปัญหาจะได้มีหลักฐานไปยืนยันได้

หากเกิดเหตุเติมน้ำมันผิดประเภท อย่างแรกที่ควรทำคือตั้งสติแล้วรีบแจ้งพนักงาน เพื่อรับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยไว้นานเพราะอาจเกิดความเสียหายภายในระบบเครื่องยนต์ได้

อ่านเพิ่มเติม: อยากขายรถ แต่ติดไฟแนนซ์อยู่ ทำยังไงดี?

ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…