(เครดิตรูปภาพ: freepik)
โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์จะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าน้ำมันเครื่องที่ใช้ทุกครั้งเป็นของแท้?
เพราะหากเผลอไปเจอน้ำมันเครื่องปลอม อาจต้องภาวนาให้เครื่องยนต์ไม่เสียหายหนัก เพราะค่าซ่อมคงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน วันนี้ Motorist จะมาแนะนำวิธีสังเกตน้ำมันเครื่องปลอม รวมถึงผลกระทบจากการใช้น้ำมันเครื่องปลอม เพื่อให้ทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เราสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่โดนหลอกจนรถสุดรักพังนั่นเอง
น้ำมันเครื่องปลอมมีจริงหรือไม่?
ในยุคปัจจุบันที่การดูแลรักษารถยนต์เป็นสิ่งสำคัญ น้ำมันเครื่องกลายเป็นส่วนสำคัญที่เจ้าของรถต้องใส่ใจ แต่ก็มีคำถามว่า “น้ำมันเครื่องปลอมมีจริงหรือไม่?” คำตอบคือ มีจริง
น้ำมันเครื่องปลอมคืออะไร?
น้ำมันเครื่องปลอม คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีการปลอมแปลงโดยอาจเป็นการนำน้ำมันเครื่องเก่าหรือน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำมาบรรจุในบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ดัง หรืออาจเป็นน้ำมันเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณสมบัติการหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์อย่างที่ควรจะเป็น
(เครดิตรูปภาพ: freepik)
วิธีสังเกตน้ำมันเครื่องปลอม
- สังเกตภาชนะบรรจุ: ควรเลือกภาชนะที่ไม่เก่า ไม่มีรอยบุบ หรือคราบน้ำมันเยิ้ม และต้องไม่มีร่องรอยการเปิดใช้งาน
- ตรวจสอบฉลาก: ฉลากต้องมีข้อมูลครบถ้วน เช่น ยี่ห้อ วันที่ผลิต ปริมาตร และเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน
- กลิ่นของน้ำมันเครื่อง: น้ำมันเครื่องแท้มักมีกลิ่นแรงจากสารเคมี ขณะที่น้ำมันปลอมมีกลิ่นอ่อนกว่ามาก
- ซื้อน้ำมันจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพสินค้า
ผลกระทบจากการใช้น้ำมันเครื่องปลอม
การใช้น้ำมันเครื่องปลอมอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์และรถยนต์ได้หลายประการ เช่น
- ลดประสิทธิภาพเครื่องยนต์: น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เสถียร และลดประสิทธิภาพการทำงานของรถ เนื่องจากส่วนผสมไม่ได้มาตรฐาน
- ควันดำจากท่อไอเสีย: น้ำมันที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดควันดำหรือควันสีเทาฟ้า ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนักได้
- การสะสมของตะกั่ว: น้ำมันเครื่องปลอมอาจมีสารที่สะสมในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเสี่ยงต่อการเสียหาย
- ปัญหาในระบบหล่อเย็น: น้ำมันคุณภาพต่ำอาจทำให้ระบบหล่อเย็นทำงานผิดปกติ และอาจทำให้ท่อหล่อเย็นเกิดปัญหา
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพจากผู้ผลิตที่หน้าเชื่อถือจะช่วยรักษาประสิทธิภาพและช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ อีกทั้งการมีประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยคุ้มครองรถและตัวคุณในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน
หากคุณไม่เคยทำประกันภัยรถมาก่อน และกำลังมองหาว่าควรเลือกกรมธรรม์แบบไหนดี ให้ Motorist ช่วยเลือกให้คุณได้เลย ที่นี่!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: ต่างกันยังไง? ความแตกต่างระหว่างหม้อน้ำกับหม้อพักน้ำ
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…