(เครดิตรูปภาพ: Freepik)
การขับรถให้ปลอดภัยบนท้องถนนไม่ใช่แค่เรื่องทักษะการขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ไฟรถให้ถูกต้องด้วย
ไฟแต่ละประเภทมีหน้าที่เฉพาะที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่น และลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับไฟรถยนต์แต่ละแบบ พร้อมวิธีใช้งานให้เหมาะสม!
1. ไฟหน้า (Headlights)
ไฟหน้าคือส่วนสำคัญที่สุดของระบบไฟรถยนต์ มีหน้าที่ส่องสว่างเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นถนนข้างหน้าได้อย่างชัดเจน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- ไฟต่ำ (Low Beam): ใช้สำหรับการขับขี่ปกติในเวลากลางคืน ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางโดยไม่รบกวนสายตารถที่สวนมา
- ไฟสูง (High Beam): ใช้เมื่อขับขี่ในที่มืดสนิทหรือไม่มีแสงไฟถนน แต่ต้องปิดเมื่อมีรถสวนทางมาเพื่อลดการแยงตาผู้ขับขี่คนอื่น
2. ไฟท้าย (Tail Lights)
ไฟท้ายจะติดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดไฟหน้า เพื่อให้รถคันหลังมองเห็นรถของเราในที่มืด ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
3. ไฟเลี้ยว (Turn Signal Lights)
ไฟเลี้ยวมีไว้เพื่อแจ้งเตือนรถคันอื่นเมื่อเราต้องการเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวไปในทิศทางที่ต้องการ ไฟเลี้ยวควรเปิดล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนทิศทางประมาณ 30 เมตร เพื่อให้รถคันอื่นเตรียมตัวได้ทัน
4. ไฟเบรก (Brake Lights)
ไฟเบรกจะติดสว่างขึ้นเมื่อเหยียบเบรก แจ้งให้รถคันหลังรู้ว่าเรากำลังชะลอหรือหยุดรถ ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนท้าย
5. ไฟฉุกเฉิน (Hazard Lights)
ไฟฉุกเฉินเป็นไฟกะพริบทั้งสี่มุมของรถ ใช้เมื่อรถจอดเสีย หรือในกรณีฉุกเฉิน เช่น เกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุที่ต้องจอดขวางการจราจร ให้รถคันอื่นสังเกตเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น
6. ไฟตัดหมอก (Fog Lights)
ไฟตัดหมอกใช้เมื่อต้องขับขี่ในสภาพอากาศที่มีหมอกควัน ฝนตกหนัก หรือฝุ่นหนา ซึ่งส่งผลให้ทัศนวิสัยขณะขับรถลดลง ไฟตัดหมอกจะช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น และทำให้รถคันอื่นสังเกตเห็นเราได้ง่ายขึ้น
7. ไฟถอยหลัง (Reverse Lights)
ไฟถอยหลังจะติดโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอย เพื่อเตือนให้คนเดินถนนและรถคันอื่นรู้ว่าเรากำลังถอยหลัง
การใช้ไฟรถยนต์อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้น ทั้งกับตัวเราและผู้อื่นบนท้องถนน เพราะนอกจากจะช่วยให้เรามองเห็นทางข้างหน้าชัดเจนแล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นสามารถสังเกตเห็นรถของเราได้ด้วย ดังนั้น การใช้งานไฟรถยนต์แต่ละประเภทให้ถูกต้อง สามารถป้องกันอุบัติเหตุ และทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่น!
Looking for a car appraisal? You can contact us for a free car valuation within 24 hours…
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: รถยนต์ต้องตรวจสภาพเมื่อไหร่? กฎที่เจ้าของรถต้องรู้!
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…