Tatsuo Nakamura รองประธานบริหารของ Mitsubishi Motors ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nikkei Asia ว่า ผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นสามารถสู้กับคู่แข่งจากจีนในตลาดฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซียได้อย่างแน่นอน
Tatsuo Nakamura ยังกล่าวอีกว่า เครือข่ายการขายและบริการที่กว้างขวางของ Mitsubishi ที่มีมากกว่า 680 สาขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นข้อได้เปรียบของบริษัท และรถยนต์ Mitsubishi ยังสามารถรักษามูลค่าคงเหลือได้ดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอีกด้วย
ในช่วงระยะเวลาเก้าเดือนระหว่างเดือนเมษายนถึงธันวาคม 2024 ส่วนแบ่งตลาดของ Mitsubishi สูงสุดอยู่ที่ 19.3 เปอร์เซ็นต์ในฟิลิปปินส์ 13.3 เปอร์เซ็นต์ในเวียดนาม และ 8.2 เปอร์เซ็นต์ในอินโดนีเซีย
คาดว่าประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน รวมถึงไทยและมาเลเซีย จะคิดเป็นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หรือ 249,000 คัน ของยอดขายรวมที่คาดการณ์ไว้ของ Mitsubishi ที่ 848,000 คันในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2025 ในส่วนของปีที่แล้ว ผู้ผลิตรถยนต์ได้ผลิตรถยนต์ในเอเชียกว่า 450,399 คัน โดยโรงงานในไทยและอินโดนีเซียมีส่วนช่วยในการผลิต ซึ่งคิดเป็น 48 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในปี 2024
Mitsubishi ได้พัฒนารถยนต์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับประเทศในอาเซียน เช่น รุ่น Xpander และ Xforce ว่ากันว่ารถ SUV เหล่านี้มีภายในที่กว้างขวางเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ระบบกันสะเทือนที่ทนทาน ซึ่งเหมาะสำหรับถนนที่ขรุขระซึ่งพบได้ทั่วไปในภูมิภาคนี้ และมีระยะห่างจากพื้นเพียงพอที่จะรับมือกับสภาพอากาศชื้นและน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี
รถไฮบริดของ Mitsubishi ที่ขายในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้นมีเพียง Xpander และ Xforce เท่านั้น ซึ่งเป็นรถมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการในประเทศที่มีแท่นชาร์จแบตเตอรี่น้อยกว่าปั๊มน้ำมัน
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: หลุดสปอย! BYD ATTO 3 ไมเนอร์เชนจ์ จ่อขายจริงปี 2568 นี้
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…
