(เครดิตรูปภาพ: freepik)
แบตเตอรี่รถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าของรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจเคยเจอปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร ซึ่งมักเกิดจากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่
การใช้งานที่ไม่เหมาะสม
การสตาร์ทรถบ่อย ๆ โดยไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานพอ อาจทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การลืมปิดไฟหน้า หรือระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เมื่อดับเครื่องยนต์ ก็อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติได้
สภาพอากาศ
ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิที่สูงสามารถทำให้สารละลายในแบตเตอรี่ระเหยเร็วขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ส่วนในพื้นที่ที่หนาวจัด แบตเตอรี่อาจมีปัญหาในการจ่ายไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้การสตาร์ทรถทำได้ยากขึ้น
ระบบชาร์จไฟของรถ
หากไดชาร์จทำงานผิดปกติ ก็จะทำให้แบตเตอรี่ได้รับไฟมากเกินไปหรือไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่เองก็มีผล โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและลักษณะการใช้งาน
วิธียืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
ตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันคราบสกปรกที่อาจทำให้ไฟฟ้าไหลเวียนได้ไม่ดี รวมถึงระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ในกรณีแบตเตอรี่เป็นแบบเติมน้ำกลั่น และเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานโดยไม่สตาร์ทเครื่อง หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน ควรสตาร์ทรถเป็นระยะ หรือถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อลดการสูญเสียประจุไฟฟ้า
การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและลดปัญหารถสตาร์ทไม่ติดได้!
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: ปิดแอร์ขับรถ ประหยัดน้ำมันจริงไหม?
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…