เราจะช่วยเหลือคุณได้อย่างไร
Mamomoji สอบถามเกี่ยวกับ คำถามทั่วไป
10 เดือน ที่แล้ว
334 การรับชม 1 คำตอบ
ขอตอบแบ่งเป็น 3 ประเด็นนะคะ
1. ตอนนี้ถ้าว่าในทางกฏหมายตอนนี้คุณถือกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองในรถคันนี้แต่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ เจ้าของรถและผู้เสียหายตอนนี้คือไฟแนนซ์ คุณต้องแจ้งให้ไฟแนนซ์เป็นผู้แจ้งความเอาเรื่องกับกับคนนั้นข้อหายักยอกทรัพย์ ดังนั้นสุดท้ายแล้วอย่างไรเสียเขาก็ต้องคืนรถให้กับไฟแนนซ์
2. เมื่อไฟแนนซ์ได้รถคืนแล้ว ด้วยความที่เขาซื้อดาวน์คุณมาไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม เขาก็คงไม่ยอม อาจจะมีการเรียกร้องเงินคืน ซึ่งตรงนี้คุณก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเคลียร์กับเขา ถ้าหากจะปล่อยให้เกิดการฟ้องร้องกันก็คงต้องมาดูที่หลักฐานเมื่อตอนขายดาวน์กัน แม้ไม่มีสัญญาแต่หากมีการหลักฐานส่วนอื่นเช่นข้อความสนทนาทางไลน์ ใบสลิปโอนเงิน ใบโอนตอนเขาส่งผ่อนรถคันดังกล่าว ฯลฯ ศาลก็อาจจะพิจารณาให้คุณชดใช้ค่าเสียหายหรือคืนเป็นตัวเงินให้กับเขา
3. แม้จะขายดาวน์ให้คนรู้จักไปแต่พราะเป็นการขายดาวน์อย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้นความรับผิดชอบในการผ่อนไฟแนนซ์ยังคงเป็นชื่อคุณ ถ้าหากคุณปล่อยให้มันขาดเกิน 3 เดือนก็จะกลายเป็นหนี้เสีย ชื่อคุณติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโรไปอีก 3 ปี เมื่อประวัติคุณเสีย ต่อไปคุณจะทำธุรกรรมทางการเงิน ซื้อรถซื้อบ้าน หรือทำธุรกรรมอื่นๆในลักษณะแบบกู้เงินธนาคารไม่ได้ไปอีก 3 ปี ถ้าเป็นข้อนี้เหมือนคุณไปรับโทษแทนเพื่อนที่เป็นผู้กระทำผิดเลยค่ะ
ก็ลองดูค่ะว่าทางเลือกไหนจะเหมาะกับคุณ แต่ส่วนตัวถ้าเป็นดิฉันเองจะเลือกวิธีเคลียร์กับไฟแนนซ์ให้ถูกต้อง อาจจะเปรียบเทียบมูลค่ารถระหว่างคืนรถให้ไฟแนนซ์ กับเราไปขายเอง(แล้วค่อยเอาเงินไปปิดยอดกับไฟแนนซ์) ดูว่าอันไหนได้เยอะกว่ากัน
ส่วนกับคนรู้จักนั้นพอจะตกลงกันได้ไหมว่าถ้าเขาไม่ส่งรถก็เคลียร์กับไฟแนนซ์ดีกว่า ซึ่งตามหลักเขาต้องยอมเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรถ น่าจะลองคุยตกลงกันดีๆ ดูก่อนค่ะ แต่หากไม่ยอมก็ต้องทำตามข้อ 1
ขอตอบแบ่งเป็น 3 ประเด็นนะคะ
1. ตอนนี้ถ้าว่าในทางกฏหมายตอนนี้คุณถือกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองในรถคันนี้แต่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ เจ้าของรถและผู้เสียหายตอนนี้คือไฟแนนซ์ คุณต้องแจ้งให้ไฟแนนซ์เป็นผู้แจ้งความเอาเรื่องกับกับคนนั้นข้อหายักยอกทรัพย์ ดังนั้นสุดท้ายแล้วอย่างไรเสียเขาก็ต้องคืนรถให้กับไฟแนนซ์
2. เมื่อไฟแนนซ์ได้รถคืนแล้ว ด้วยความที่เขาซื้อดาวน์คุณมาไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม เขาก็คงไม่ยอม อาจจะมีการเรียกร้องเงินคืน ซึ่งตรงนี้คุณก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเคลียร์กับเขา ถ้าหากจะปล่อยให้เกิดการฟ้องร้องกันก็คงต้องมาดูที่หลักฐานเมื่อตอนขายดาวน์กัน แม้ไม่มีสัญญาแต่หากมีการหลักฐานส่วนอื่นเช่นข้อความสนทนาทางไลน์ ใบสลิปโอนเงิน ใบโอนตอนเขาส่งผ่อนรถคันดังกล่าว ฯลฯ ศาลก็อาจจะพิจารณาให้คุณชดใช้ค่าเสียหายหรือคืนเป็นตัวเงินให้กับเขา
3. แม้จะขายดาวน์ให้คนรู้จักไปแต่พราะเป็นการขายดาวน์อย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้นความรับผิดชอบในการผ่อนไฟแนนซ์ยังคงเป็นชื่อคุณ ถ้าหากคุณปล่อยให้มันขาดเกิน 3 เดือนก็จะกลายเป็นหนี้เสีย ชื่อคุณติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโรไปอีก 3 ปี เมื่อประวัติคุณเสีย ต่อไปคุณจะทำธุรกรรมทางการเงิน ซื้อรถซื้อบ้าน หรือทำธุรกรรมอื่นๆในลักษณะแบบกู้เงินธนาคารไม่ได้ไปอีก 3 ปี ถ้าเป็นข้อนี้เหมือนคุณไปรับโทษแทนเพื่อนที่เป็นผู้กระทำผิดเลยค่ะ
ก็ลองดูค่ะว่าทางเลือกไหนจะเหมาะกับคุณ แต่ส่วนตัวถ้าเป็นดิฉันเองจะเลือกวิธีเคลียร์กับไฟแนนซ์ให้ถูกต้อง อาจจะเปรียบเทียบมูลค่ารถระหว่างคืนรถให้ไฟแนนซ์ กับเราไปขายเอง(แล้วค่อยเอาเงินไปปิดยอดกับไฟแนนซ์) ดูว่าอันไหนได้เยอะกว่ากัน
ส่วนกับคนรู้จักนั้นพอจะตกลงกันได้ไหมว่าถ้าเขาไม่ส่งรถก็เคลียร์กับไฟแนนซ์ดีกว่า ซึ่งตามหลักเขาต้องยอมเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรถ น่าจะลองคุยตกลงกันดีๆ ดูก่อนค่ะ แต่หากไม่ยอมก็ต้องทำตามข้อ 1