Rimac Automobili หนึ่งในผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าระดับโลก ได้เปิดตัวโปรโตไทป์รถขับเคลื่อนอัตโนมัติในกลุ่ม Robotaxi ภายใต้บริษัทใหม่ชื่อ Verne การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของ Rimac ในการเข้าสู่ตลาดรถขับเคลื่อนอัตโนมัติและบริการ Ridesharing ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลก
Rimac Automobili ได้เปิดตัวโปรโตไทป์รถขับเคลื่อนอัตโนมัติในกลุ่ม Robotaxi ภายใต้บริษัทใหม่ชื่อ Verne โดย Rimac วางแผนที่จะเริ่มให้บริการรถรุ่นนี้ในเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของรีแมค ภายในปี 2026 ต่อด้วยการขยายบริการไปยัง 11 เมืองในสหราชอาณาจักร, เยอรมนี, เมืองอื่น ๆ ในยุโรป, ตะวันออกกลาง และอีกอย่างน้อย 30 เมืองทั่วโลกที่กำลังทำสัญญากับ Verne เพื่อเปิดบริการแท็กซี่อัตโนมัติหรือธุรกิจ Ridesharing
Rimac มีแผนที่จะเริ่มให้บริการ Robotaxi รุ่นนี้ในเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบริษัท ภายในปี 2026 และจะขยายการให้บริการไปยัง 11 เมืองในสหราชอาณาจักร, เยอรมนี, เมืองอื่น ๆ ในยุโรป, ตะวันออกกลาง และอีกอย่างน้อย 30 เมืองทั่วโลกที่กำลังทำสัญญากับ Verne เพื่อเปิดบริการแท็กซี่อัตโนมัติหรือธุรกิจ Ridesharing การขยายตัวนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการบริการขนส่งที่สะดวกและปลอดภัย
Verne เป็นบริษัทใหม่ที่ก่อตั้งโดย Mate Rimac ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Rimac Automobili ร่วมกับเพื่อนสองคนจากบริษัท Rimac ได้แก่ Adriano Mudri ผู้ออกแบบไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า Rimac Nevera และ Marko Pejković ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Rimac Automobili และสมาชิกคณะกรรมการกำกับดูแลของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac โดย Pejković จะทำหน้าที่เป็น CEO ของบริษัท Verne การรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ทำให้ Verne มีความแข็งแกร่งและพร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จ
ชื่อบริษัท Verne ได้รับแรงบันดาลใจจากนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Jules Verne ผู้ประพันธ์นิยายอมตะอย่าง "20,000 Leagues Under the Sea", "Journey to the Center of the Earth" และ "Around the World in 80 Days" การเลือกชื่อนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของบริษัทในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก
การออกแบบ Robotaxi ของ Verne แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ในตลาด รถของ Verne เป็นรถคูเป้สองที่นั่ง หน้าลาด ท้ายตัด ดูล้ำยุค ถูกออกแบบมาให้เป็นรถไร้คนขับที่ไม่มีพวงมาลัยตั้งแต่ต้น ต่างจากบริษัทอื่นที่ดัดแปลงรถจากสายการผลิต เช่น Waymo ที่ใช้พื้นฐานของ Chrysler Pacifica หรือ Jaguar I-Pace และ Cruise Automation ที่ใช้พื้นฐานของ Chevrolet Bolt การออกแบบที่เน้นไปที่ความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทำให้ Verne มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
Rimac ตั้งใจออกแบบรถรุ่นนี้ให้มีเพียงสองที่นั่งตั้งแต่เริ่มโครงการ เนื่องจากผลวิจัยระบุว่า 9 ใน 10 ของผู้ใช้บริการแท็กซี่มีผู้โดยสารเพียงหนึ่งหรือสองคน การเรียกใช้บริการสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นของ Verne และสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมของห้องโดยสารล่วงหน้าก่อนรถจะมาถึงบนสมาร์ทโฟน เช่น สภาพแสง, อุณหภูมิ หรือกลิ่นหอมภายในห้องโดยสาร
ประตูห้องโดยสารเป็นแบบสไลด์ หลังคา Panoramic Sunroof พื้นที่ห้องโดยสารมีขนาดพอ ๆ กับ Rolls-Royce เบาะนั่งถูกออกแบบให้มีความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ มีจอขนาด 43 นิ้ว ลำโพง 17 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร Touchpad สำหรับตั้งค่าและควบคุมอุปกรณ์ภายในรถ และฟังก์ชัน ‘Median’ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการสามารถสตาร์ทรถหรือหยุดรถได้หากต้องการ
Rimac ยังไม่เผยข้อมูลเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Verne ในเวลานี้ แต่ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า Verne ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับขนาดได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่ให้บริการในอนาคต ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติใช้เทคโนโลยีของ Mobileye ซึ่งประกอบด้วยกล้อง เรดาร์ LiDAR และเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่สามารถปรับจูนให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรในแต่ละพื้นที่ได้
การเปิดตัว Verne ถือเป็นก้าวใหม่ที่น่าตื่นเต้นของ Rimac Automobili ในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำยุคและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก การรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญและการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทำให้ Verne มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในตลาดรถขับเคลื่อนอัตโนมัติและบริการ Ridesharing ทั่วโลก
ที่มา: motortrivia
รับสิทธิ์ประเมินราคารถฟรีวันนี้!
อ่านเพิ่มเติม: นวัตกรรมใหม่จาก Nyobolt สปอร์ต EV สัญชาติอังกฤษที่มาพร้อมกับน้ำหนักเบาและการชาร์จไว
ต้องการ ราคาประเมินรถ? สามารถติดต่อเราเพื่อรับการประเมินราคารถฟรี ภายใน 24 ชั่วโมงได้เลย…